ทัวร์ยุโรปกับคุณปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว ธุรกิจนำเที่ยวยั่งยืนได้...หากรู้จักปรับตัว

Last updated: 4 ก.ย. 2566  |  13335 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทัวร์ยุโรปกับคุณปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว ธุรกิจนำเที่ยวยั่งยืนได้...หากรู้จักปรับตัว

 
 ทัวร์ยุโรปกับคุณปั่น - ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว  
ธุรกิจนำเที่ยวยั่งยืนได้ หากรู้จักปรับตัว
 
       วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะมาก เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วเราก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว และนั่นไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเท่านั้นเรียกว่าเกือบทุกธุรกิจบนโลกกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ภาพของผู้ชายตัวเล็ก รูปร่างสันทัด สวมแว่นตา มีทรงผมแปลกตาที่ชื่อ “ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” ได้ถูกจดจำว่า เป็นนักแสดงและนักร้องแนวเพลงป๊อป-แจ๊ส ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในยุคสมัยหนึ่ง ทว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ว่าจริงๆแล้ว ผู้ชายคนนี้มีดีมากกว่าภาพที่ปรากฏให้เราท่านเห็นทางหน้าจอโทรทัศน์หรือเวทีคอนเสิร์ต

 


       ภาพการพูดคุยเป็นภาษาสเปน และภาษาอังกฤษ กับคู่มิตรทางธุรกิจต่างชาติและความเอาจริงเอาจังในการทำงานอยู่ภายในบริษัท เอฟวีนิว อินเตอร์ แทรเวิล กรุ๊ป จำกัด หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า เอฟวีนิว ทัวร์ (Avenue Tour) เป็นภาพที่น้อยคนนักจะได้รู้ว่า นี่คืองานหลักของ “คุณปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” ในฐานะผู้อำนวยการทัวร์และผู้บริหารคนสำคัญของบริษัทฯที่ตั้งใจทำงานเพื่อให้เกิดการบริการด้านการนำเที่ยวที่ดีที่สุดกับลูกค้าทุกคน นักร้องคนดังเจ้าของตำนานเพลงรักเล่าย้อนกลับไปถึงจุดแรกของการก้าวเดินเข้ามาสู่ธุรกิจนำเที่ยวที่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาต้องพบกับเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในธุรกิจ “จุดแรกที่ทำให้ผมก้าวเข้ามาในธุรกิจนี้ เป็นเพราะพี่ชายของผมซึ่งเขาเรียนจบจากสเปนแล้วกลับมาตั้งบริษัทนำเที่ยว โดยเฉพาะการนำคนสเปนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตอนนั้นมีคนสเปนเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ขณะที่คนไทยที่พอพูดภาษาสเปนได้ ก็มีน้อย” เสียงที่สื่อให้เห็นถึงความสุขและใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อคุณปั่นเล่าถึงเรื่องราวในอดีต

 


จุดเปลี่ยนชีวิต

         “หลังจากที่ผมเรียนจบจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และได้เข้าทำงานอยู่ในฝ่ายสวัสดิการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รวมถึงการเล่นดนตรีด้วย ทำให้พี่ชายมองว่าผมทำงานหนักมากไปหรือเปล่า ก็เลยชวนไปสเปนเพื่อเรียนรู้ภาษาสเปนแล้วจะได้มาช่วยงานในบริษัททัวร์ของพี่ชายซึ่งผมก็รับปากและไปตามคำชวนของพี่ชายก่อนที่จะกลับมาช่วยงานในบริษัททัวร์อย่างที่ตั้งใจแต่พอทำงานกับพี่ชายไปได้ระยะหนึ่ง ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง มีงานร้องเพลง และงานแสดงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีงานเข้ามาเยอะ ทำให้ผมทำงานในบริษัททัวร์ของพี่ชายได้ไม่เต็มที่เท่าไรนักและรู้สึกเกรงใจพี่ชาย จึงขอหยุดการทำทัวร์ แล้วมุ่งมั่นในการร้องเพลงและงานด้านแสดงอย่างเต็มที่เรื่อยมา”

 


       เหมือนชะตาฟ้าลิขิตให้ชายหนุ่มที่ชื่อ “ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” ยังคงต้องก้าวเดินไปบนเส้นทางธุรกิจนำเที่ยวต่อไป เมื่อมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงในธุรกิจนำเที่ยวติดต่อมาหาเขา “ระหว่างที่หยุดงานทัวร์ของพี่ชาย ผมก็ร้องเพลงอย่างเดียวมาตลอดกระทั่งวันที่ผมได้รับการติดต่อจากน้องเจี๊ยบ – ศิริฐา สุทธาศวินและน้องโอ่ง – อรรถวุฒิ์ สุทธาศวิน จาก เอฟวีนิว ทัวร์ ซึ่งกำลังมีทัวร์ไปสเปนและต้องการไกด์ที่รู้จักสเปนเป็นอย่างดี โดยเขาได้รับคำแนะนำมาจากทางสถานทูตสเปนที่คุ้นเคยกับผมเป็นอย่างดีและก็กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมได้กลับคืนสู่ธุรกิจนำเที่ยวและเริ่มต้นการทำงานในธุรกิจนี้อย่างจริงจังอีกครั้ง”

 


    “ก่อนทำธุรกิจด้วยกัน ผมแอบกระซิบบอกน้องๆไปครับว่า ขอให้พี่มีโอกาสทำทัวร์แล้วก็ร้องเพลงด้วยได้ไหม” นักร้องหนุ่มใหญ่หัวเราะ “พอน้องเขาตกลง ผมก็เลยรับปากทำธุรกิจร่วมกันนับแต่นั้นมาจนถึงวันนี้ ในฐานะหุ้นส่วนคนหนึ่งของธุรกิจแห่งนี้ ซึ่งผมก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเดินทางอยู่ในธุรกิจนี้มานานถึง 20 ปีแล้วและจะยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆเพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร”

    “จริงๆ แล้วการทำงานทัวร์ก็ตรงกับนิสัยผมครับ คือผมเป็นคนชอบเที่ยว อยากรู้อยากเห็น ชอบลอง ชอบเรียนรู้เรื่องต่างๆ การรู้จักคน พูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้คน ทำให้รู้จักอะไรต่างๆมากมาย และจริงๆแล้วการที่ผมได้มาอยู่ในวงการธุรกิจทัวร์ได้ก็ต้องขอขอบคุณพี่ชายผม คุณณรงค์ เขียวแก้ว บริษัท Travex และ น้องเจี๊ยบ น้องโอ่ง ผู้ก่อตั้งบริษัท Avenue ซึ่งเราก็ทำงานดูแลช่วยเหลือกัน ต้องขอบคุณพวกเขามากๆครับ”
 

 

ธุรกิจนำเที่ยว ไม่ง่ายอย่างที่คิด

    แม้ว่าจะมีประสบการณ์ในธุรกิจนำเที่ยว เข้าใจความต้องการของนักท่องเที่ยวแต่ละราย รู้ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในธุรกิจทว่าคุณปั่นก็พูดจากหัวใจจริงว่า “ธุรกิจนำเที่ยว ไม่ได้ทำกันง่ายๆ เป็นงานบริการที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เพราะต้องทำงานกับคนที่มีจิตใจและพื้นฐานความรู้หรืออะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน คนไม่ใช่เครื่องจักรที่สามารถสั่งให้ทำอะไรก็ได้เพียงแค่กดปุ่มจริงๆ ทำงานกับคนเป็นสิ่งที่ยากพอสมควร ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาในแบบฉบับของผมก็คงจะต้องมีการพูดคุยหรือสัญญากันไว้ก่อนว่าเราไม่ได้ทำงานให้ใครคนเดียวนะ เรามาเป็นกรุ๊ปเราก็ควรจะทำอะไรที่เป็นกลางๆไว้ เช่นเดียวกับการเลือกร้านอาหาร เราจะเลือกร้านอาหารที่ดีที่สุดแต่ถ้าเจอร้านที่มีข้อบกพร่องเราก็จะบอกให้เอเย่นต์ในแต่ละประเทศให้หาร้านที่ดีกว่าให้”
 


 

      “นั่นเป็นสิ่งที่คนในธุรกิจรู้ และปฏิบัติกันมาเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีสุดกับลูกค้า แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้วบริษัททัวร์ จะมีชื่อเสียงหรือยืนอยู่ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับคนคนเดียวคือ ไกด์ ซึ่งหากเขาพูดไม่ดี ดูแลลูกค้าไม่ดี ลูกค้าก็คงไม่ใช้บริการบริษัททัวร์นั้นอีกแน่และนอกจากไกด์แล้ว การทำทัวร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับบริษัททัวร์เท่านั้น อย่างการซื้อตั๋วเราก็ต้องซื้อกับแอร์ไลน์ จะถูกจะแพง จะบินตรงหรือไม่ ก็อยู่กับแอร์ไลน์ ดังนั้นการทำทัวร์จึงดูเหมือนง่าย แต่หากได้ทำจริงก็จะรู้ว่าเป็นเรื่องยากเพราะเราไม่ได้มีเครื่องมือเหล่านี้เลย ยังคงต้องพึ่งพาธุรกิจที่เกี่ยวข้อง” น้ำเสียงของคุณปั่นที่เล่าให้ฟัง ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ธุรกิจนี้ทำยากจริงๆ “เช่นเดียวกับร้านอาหารเราไม่สามารถควบคุมได้เลยว่าวันนี้อาหารแต่ละเมนูจะมีรสชาติเหมือนกันทุกครั้งหรือไม่ อย่างวันนี้อาจจะเค็มไป อีกวันจืดไป เราคุมไม่ได้ แต่เราใช้ความไว้ใจและความเชื่อใจ รวมถึงการทำงานที่เคยทำร่วมกันมาเป็นตัวชี้วัดมากกว่า หรือถ้าเราไม่รู้อะไรเลย เราก็อาจใช้แลนด์ในแต่ละประเทศมาเป็นผู้ให้คำแนะนำกับเราได้

        ผมว่าการทำทัวร์มีข้อผิดพลาดได้ตลอดนะ อย่างการดีเลย์ของสายการบินที่ทำให้ลูกค้าไม่สามารถไปเที่ยวทัวร์ได้ในตอนเช้าอีกวันได้ เอาละแขกโวยวายไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เชื่อไหมครับว่าผมมีคนที่บริหารจัดการสิ่งเหล่านี้ได้ดี นั่นก็คือ ไกด์ ที่เป็นเสมือนตัวแทนของบริษัท ซึ่งบริษัทจะดูดีหรือดูแย่ลง ขึ้นอยู่กับคำพูดของไกด์จริงๆ”

      “เรื่องรับผิดชอบเราต้องทำอยู่แล้ว แต่จะพูดรับผิดอย่างไรให้ดูสวยหรือจะปฏิเสธอย่างไรให้ดูสวย ซึ่งไกด์คือคนเดียวที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้ดี เป็นคนที่มีทักษะการพูดเป็นเยี่ยม อย่างผมก็อาจจะสู้น้องๆเหล่านี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ และหากเราไม่มีคนเก่งๆเหล่านี้ บริษัททัวร์ของเราก็ไม่สามารถเติบโตและก้าวเดินมาได้กว่า 20 ปีแน่นอน ส่วนการบริหารจัดการภายในบริษัท หากว่าไปแล้วก็ต้องยกความดีความชอบให้กับน้องเจี๊ยบ และน้องโอ่ง ที่ดูแลทางด้านนี้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในมุมมองของผมไม่ว่าจะบริหารงานใดๆจำเป็นต้องมีทั้งพระเดช และพระคุณควบคู่กันไป อันนี้พูดตรงๆเวลาผมพบเห็นปัญหาอะไร ผมจะไม่เข้าชนโดยตรง จะใช้วิธีปรึกษากับน้องทั้งสองคนเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยให้น้องทั้งสองช่วยส่งต่อแนวทางการทำงานที่ถูกต้องและตรงจุดไปยังผู้ปฏิบัติการในแต่ละฝ่ายแต่ละส่วน จะว่าไปแล้วถือเป็นโชคดีของผม เพราะน้องๆในบริษัททุกคนต่างก็น่ารักและทำงานเก่งทุกคน”

 
 

ปรับตัวตามกระแสโลก

           รางวัลมากมายที่ถูกตั้งวางอยู่ภายในบริษัท เรียกได้ว่าเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพ และมาตรฐานการบริการที่มีมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้บริษัททัวร์แห่งนี้ยังคงยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง บนโลกที่นับวันมีแต่จะเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นคือ การปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์รูปแบบการใช้ชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป “ในแง่ของธุรกิจทุกวันนี้ เราเน้นไปที่การขายกรุ๊ปเหมามากกว่าการขายหน้าร้านที่มีการแข่งขันกันเยอะ รวมถึงจำนวนคนที่จะมาซื้อทัวร์เองก็น้อยลงไปเรื่อยๆยิ่งเด็กที่เป็นคนรุ่นใหม่ จะนิยมไปท่องเที่ยวด้วยตัวเองไม่ค่อยพึ่งพาบริษัททัวร์สักเท่าไร ถ้าเป็นกรุ๊ป หรือองค์กรใหญ่เขาก็จะได้รับความสะดวกไม่ต้องจัดการเองให้ยุ่งยาก”

           “ในมุมมองของผม วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะมากเพียงแค่ใช้ปลายนิ้ว เราก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วและนั่นไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเท่านั้นเรียกว่าเกือบทุกธุรกิจบนโลกกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งก็รวมถึงธุรกิจทัวร์ด้วย วันนี้ผมและน้องๆในบริษัทก็ได้พูดคุยและปรึกษากันอยู่ตลอดโดยเบื้องต้นเราขอทำทุกอย่างในวันนี้ให้ดีที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก แล้วคอยมองว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ซึ่งเราก็จำเป็นต้องปรับตัวไปเรื่อยๆตามกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้บริษัทยังเดินหน้าต่อไปได้ในอนาคตเราอาจจะเพิ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมาเป็น โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรืออะไรก็ตามเพื่อให้เข้ากับกระแสความนิยมของโลกที่เปลี่ยนไป”
 
 



มุมมองท่องเที่ยวรูปแบบใหม่

         การเปิดมุมมองการท่องเที่ยวในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิมถือเป็นอีกแนวคิดที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจทัวร์ให้สามารถอยู่รอดในโลกปัจจุบัน ซึ่งคุณปั่นก็ได้บอกเล่าถึงความประทับใจและความชื่นชอบในมุมของตัวเองเช่นกัน “ในความคิดส่วนตัวของผมแล้วจะชอบการท่องเที่ยวในสถานที่อันซีนมากกว่า เอาง่ายๆถ้าบอกว่าไปนิวยอร์กหรือไปปารีส อะไรเหล่านี้ผมก็ไปเห็นมาเยอะแล้ว โดยส่วนตัวผมจะชอบท่องเที่ยวในแบบการไปดูประเพณี วัฒนธรรมเก่าๆ หรือชีวิตความเป็นอยู่ของคนในแต่ละประเทศเหมือนกับคนที่อยากขับรถลุยเข้าไปในป่าแต่ทั้งนี้ผมสังเกตเห็นว่าลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวหลายคนในวันนี้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ผ่านชีวิตมาเยอะ เขาเหมือนอยากใช้ชีวิตในแบบพักผ่อน อยากกินนู่นกินนี่ อยากรู้อยากเห็นหรือสัมผัสในสิ่งแปลกใหม่มากขึ้น ซึ่งตัวของผมก็เป็นแบบนั้น”
 
 


        “อย่างบางครั้งเราได้ยินมาว่า อินเดีย ไม่ค่อยสะอาด ก็ทำให้อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรหรือแม้แต่วัฒนธรรมบางอย่างเช่น โยคีเป็นอย่างไร อันนี้ก็อยากรู้อยากเห็นในเรื่องราวเหล่านี้มากกว่า แต่จะให้บอกว่าผมชอบท่องเที่ยวประเทศที่ใดประเทศหนึ่งมากกว่า คงจะบอกไม่ได้ เพราะทุกประเทศต่างก็มีความสวยงามเฉพาะตัวที่ต่างกัน เปรียบเทียบกันไม่ได้แต่หากมองในแง่ของความเป็นประเทศใหม่ที่น่าท่องเที่ยว ณ วันนี้โครเอเชียเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ผมรู้สึกชื่นชมเป็นการส่วนตัวจริงๆ ตอนที่ผมไปแรกๆบ้านเรือนของคนที่นั่น ยังมีรูกระสุนปืน และร่องรอยของสงครามอยู่เลยและพอไปดูป่าที่ได้รับการยกให้เป็นมรดกโลก ก็รู้สึกประทับใจเพราะเปรียบเหมือนสวรรค์ที่อยู่บนดินเลยก็ว่าได้”

      ฟังคุณปั่น เล่าถึงสถานที่ท่องเที่ยวอันซีน ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับภาพสถานที่ท่องเที่ยวจริงอยู่ตรงหน้า “ไม่ใช่แค่เราจะได้พบความแปลกใหม่ และเปิดโลกทัศน์ด้านการท่องเที่ยว แต่นั่นเรายังได้เห็นถึงวิถีการดำรงชีวิต ของคนในถิ่นต่างๆที่เราไม่เคยเห็นเรามองในสิ่งที่เราไม่มี เราได้เห็นความรู้ในแบบชาวบ้าๆที่เรียกว่าภูมิปัญญาตลอดจนศิลปะแขนงต่างๆที่ยากจะดูได้ในปัจจุบัน ซึ่งบางครั้งอาจมองลึกได้ไปถึงจิตใจของผู้คนในประเทศเหล่านั้นด้วย”

        ปัจจุบัน เอฟวีนิว ทัวร์ มุ่งเน้นการบริการมากกว่าผลประกอบการสิ่งที่ดีๆ เราก็เลือกที่จะมอบให้กับลูกค้า คือบริษัทเรามีความชำนาญในเส้นทางยุโรป เอเชีย พร้อมทั้งศักยภาพ การมีคอนเน็กชั่นทั่วโลกที่ทำให้เราสามารถผลิตโปรแกรมทัวร์คุณภาพในราคาที่เหมาะสม

 

เหตุการณ์ถ้ำหลวง กับการท่องเที่ยว

       พูดคุยถึงการท่องเที่ยวอยู่พักใหญ่ ก็นึกถึงคำพูดของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุการณ์ถ้ำหลวง ที่ในอนาคตอาจจะพัฒนาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของประเทศไทยนั้น ประเด็นนี้ คุณปั่นก็มีมุมมองว่ามีความเป็นไปได้เหมือนกัน แต่ก็จะมีแค่นักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มเท่านั้น “นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจไปไม่ถึงเชียงราย แต่หากใครที่ไปถึงก็อาจจะไปที่นั่นก็ได้ เพราะจากประสบการณ์ในการทำทัวร์ของผม นักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทย ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้ามาท่องเที่ยวที่จุดจุดเดียว ขณะที่ช่วงเวลาการอยู่ในประเทศก็มีค่อนข้างจำกัดจริงๆแล้วเราก็สามารถพัฒนาถ้ำหลวงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้เหมือนกัน โดยเริ่มต้นจากการโปรโมตให้คนไทยในประเทศได้ไปท่องเที่ยวก่อน เพื่อให้ได้เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติและชื่นชม รวมถึงภาคภูมิใจในสิ่งที่เรามีอยู่ ที่สำคัญยังทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไปพร้อมกันด้วย”
 
 
 
 


       “แต่ทั้งนี้” นักร้องเพลงรักในตำนาน เอ่ยข้อแม้ขึ้น “เราจะต้องมีวิธีบริหารการจัดการสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นระบบระเบียบให้มากขึ้นกว่าเดิม หรือแม้แต่การจัดการด้านการจราจรที่มีความสะดวกสบาย รวมถึงการทำนุบำรุงสถานที่ท่องเที่ยว ยิ่งถ้าเป็นโบราณสถานด้วยแล้วก็ต้องมีวิธีการดูแลอย่างดี ไม่ส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดการทำลายโบราณสถาน นอกจากนี้ควรจะโปรโมตให้คนไทยได้ร่วมตระหนักและสำนึกในคุณค่าของโบราณสถานด้วยหัวใจจริงๆ ก่อนที่จะประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศต่อไป ซึ่งวันนี้ประเทศไทยของเรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ นอกเหนือจากการทัวร์วัดและวัง อย่างที่บริษัททัวร์หลายแห่ง มักจะแนะนำในแพ็กเกจทัวร์ทั่วไป”

       พูดคุยมาพอสมควรแก่เวลา นักร้องหนุ่มใหญ่ก็สรุปบทเรียน สำคัญในการทำธุรกิจทัวร์ ณ วันที่เราเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่พูดยาก แต่ก็คงต้องพูดออกมา “ผมเชื่อว่า คนทำธุรกิจทัวร์เองก็อยากที่จะทำให้ธุรกิจของเขาอยู่รอดและยืนอยู่ได้ตลอดไป แต่ทั้งหมดทั้งมวล ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องมีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์รวมถึงการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่แต่ละบริษัทมีอยู่ออกมาใช้ควบคู่กัน อาจจะทำให้เล็กหน่อยแล้วเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างไปจากคู่แข่ง ตลอดจนต้องรู้ด้วยว่าจำนวนของนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรานั้นมีจำนวนเท่าไร เพื่อจะได้ใช้เป็นข้อมูล ในการวางแผน และดำเนินธุรกิจให้ยังคงเดินหน้าได้ต่อไป” ต้องขอขอบคุณคุณลูกค้าที่ตลอด 20 ปี ไม่เคยทิ้งกัน ดูแลกันไปเรื่อยๆ ถ้านึกถึงการเดินทางไปต่างประเทศก็ขอให้นึกถึง เอฟวีนิวทัวร์

      วันนี้คงไม่ใช่แค่ธุรกิจทัวร์อย่างเดียวที่ต้องมีการปรับตัวให้ทันและเปลี่ยนไปตามกระแสโลกที่หมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ทว่ายังคงมีอีกหลากหลายธุรกิจที่ตกอยู่ในภาวะเดียวกันนี้ ซึ่งหากไม่ปรับตัวก็คงจะต้องปิดฉากกันไปแต่หากธุรกิจใดรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ทันก็จะสามารถยืนหยัด เผลอๆอาจก้าวเป็นผู้นำของวงการธุรกิจที่ทำอยู่ด้วยก็มีสิทธิ์เป็นไปได้เหมือนกัน
 
เอฟวีนิวทัวร์เราชำนาญ ทัวร์ยุโรป และทัวร์เอเชีย บริการจัดทัวร์ยุโรปและทัวร์เอเชียส่วนตัวในราคาที่เหมาะสม พร้อมทีมงานคุณภาพ
เราบริการทัวร์ยุโรปเส้นทางใหม่ๆ ทัวร์ยุโรปจัดทำเองออกเองไม่จอยกรุ๊ปกับใคร  
 
 
 ขอขอบคุณ นิตยสาร Vacationist
 
 
 
ชมทัวร์ยุโรป
 


 ชมบทความอื่นๆ 
https://bit.ly/2CPDlDe

 



ชอบบทความ เอฟวีนิวทัวร์ ทำยังไงนะ?
 
1.กดแชร์ส่งต่อ ให้เพื่อนๆอ่านกันได้คะ

2.คลิก Like และ ติดตาม follow เราได้ที่ช่องทางเฟชบุ้ค


    02-108-8666


@avenuetour 
  
   
      
Avenue Inter Travel Group
    
         


AVENUE INTER TRAVEL GROUP เราชำนาญทัวร์ เส้นทางยุโรปและเอเชีย
#ทัวร์ยุโรป #ทัวร์คุณปั่น #ชำนาญยุโรป #ทัวร์เอเชีย #ทัวร์สุดคุ้ม #รับจัดทัวร์ #รับจัดทัวร์หมู่คณะ #เราชำนาญเส้นทางยุโรปและเอเชีย 
 

 

 

 
 
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้