มอนเตเนโกร...ไข่มุกแห่งเอเดรียติก ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้จัก
ในยุโรปใต้ มีประเทศเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ชื่ออาจไม่คุ้นหูเท่าไรนัก แต่กลับซ่อนความงดงามราวกับอัญมณีไว้ทุกตารางนิ้ว ประเทศนั้นคือ มอนเตเนโกร (Montenegro)
Sveti Stefan, ประเทศมอนเตเนโกร (Montenegro)
มอนเตเนโกร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ติดกับโครเอเชีย บอสเนีย และแอลเบเนีย มอนเตเนโกรเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากธรรมชาติ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับฉายาว่า ไข่มุกแห่งเอเดรียติก (The Pearl of the Adriatic) เต็มไปด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์ วัฒนธรรมแท้ และความเงียบสงบ นอกจากชายฝั่งทะเลแล้ว ยังมี ทะเลสาบ สวนธรรมชาติ และภูเขา ที่เหมาะสำหรับการเดินป่า ปั่นจักรยาน หรือนั่งรถชมวิวแบบสโลว์ไลฟ์ ที่นี่ยังคงความดั้งเดิมของวิถีชีวิตผู้คน ไม่มีความวุ่นวายหรือการท่องเที่ยวแบบมวลชนเหมือนบางประเทศในยุโรป ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศได้อย่างแท้จริง
มาเที่ยวมอนเตเนโกรทั้งที จะพลาดเมือเหล่านี้ไม่ได้ จะมีอะไรบ้างน้าา?
1.เมืองโคเตอร์ (Kotor) เมืองเก่าริมอ่าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขาและทะเลอันเงียบสงบ เต็มไปด้วยตรอกหิน โบสถ์เก่า และคาเฟ่คลาสสิกที่ชวนให้หลงใหลในบรรยากาศยุโรปยุคกลาง ไฮไลต์อยู่ที่การปีนขึ้นป้อม St. John Fortress เพื่อชมวิวอ่าวแบบพาโนรามากับภาพงดงามที่ตราตรึงใจไม่รู้ลืม
2.บุดวา (Budva) เมืองชายทะเลยอดนิยมของมอนเตเนโกร มีทั้งเมืองเก่าที่มีกำแพงหินโบราณ และชายหาดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา บรรยากาศคล้ายโครเอเชียแต่เงียบสงบกว่า อีกทั้งยังมีชื่อเสียงเรื่องสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่คึกคักริมทะเล
3.pearst (เปรัสต์) เมืองเล็กริมอ่าว Kotor ในมอนเตเนโกร เงียบสงบ คลาสสิก และมีเสน่ห์ด้วยอาคารหินเก่า โบสถ์กลางน้ำ และวิวทะเลสวยราวกับโปสการ์ด เหมาะกับการเดินเล่นชมเมืองแบบสโลว์ไลฟ์
4.Cetinje (เชตินเย) เมืองหลวงเก่าแก่ของมอนเตเนโกร ที่แม้ปัจจุบันจะไม่ใช่ศูนย์กลางการปกครองอีกต่อไป แต่ยังคงเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศ ที่นี่เต็มไปด้วยวังเก่า โบสถ์โบราณ และพิพิธภัณฑ์มากมายที่สะท้อนความรุ่งเรืองในอดีต บรรยากาศเมืองเงียบสงบ มีเสน่ห์แบบย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ หรืออยากเดินเล่นชมเมืองช้า ๆ ท่ามกลางธรรมชาติและสถาปัตยกรรมเก่าแก่
5.Sveti Stefan (สเวตี สเตฟาน) เกาะเล็กสุดไอคอนของมอนเตเนโกร ที่เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง ก่อนถูกปรับเป็นโรงแรมหรูระดับโลก เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ด้วยทางเดินหินริมทะเล แม้ปัจจุบันจะไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าไปด้านใน แต่สามารถชมวิวจากจุดชมวิวด้านบน ซึ่งให้ภาพมุมสูงสุดโรแมนติกราวโปสการ์ด
6.Tivat (ทีวัต) เมืองชายฝั่งสมัยใหม่ของมอนเตเนโกร ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ที่นี่เป็นที่ตั้งของ Porto Montenegro ท่าจอดเรือยอชต์ระดับโลก พร้อมด้วยร้านอาหาร บูติก และบรรยากาศริมน้ำที่ดูมีระดับ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการพักผ่อนแบบเงียบสงบ แต่ยังคงทันสมัยและสะดวกสบาย
7.Durmitor National Park อุทยานธรรมชาติระดับโลกของมอนเตเนโกร ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก เต็มไปด้วยภูเขาสูง เทือกเขาหินปูน ทะเลสาบสีฟ้าใส และป่าเขียวขจี ไฮไลต์คือ ทะเลสาบดำ (Black Lake) และกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า พายเรือ ปีนเขา หรือแม้แต่ล่องแก่งในแม่น้ำ Tara Gorge ที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
แม้มอนเตเนโกรจะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่ความงดงามของที่นี่กลับ ยิ่งใหญ่เกินขนาดแผนที่ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายธรรมชาติ รักประวัติศาสตร์ หรือแค่มองหาที่เที่ยวใหม่ ๆ ที่ยังไม่ซ้ำใคร มอนเตเนโกรพร้อมจะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้คุณอย่างแน่นอน
สนใจเที่ยว มอนเตเนโกร กับ เอฟวีนิว คลิ๊กเลย !