ไปยุโรปไม่เหมือนเดิม! รู้จักระบบ EES แทนการปั๊มพาสปอร์ต
มาทำความรู้จักกับ ESS กันก่อน
EES (Entry/Exit System) คือ ระบบดิจิทัลที่สหภาพยุโรปพัฒนาขึ้นเพื่อใช้แทนการปั๊มตราบนพาสปอร์ตทุกครั้งที่นักท่องเที่ยวจากนอก EU/Schengen เดินทางเข้า-ออกยุโรป ระบบจะบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ เช่น วันเวลาเข้า-ออก ประเทศที่ใช้ผ่านแดน รวมถึงข้อมูลชีวมิติ (ลายนิ้วมือและรูปถ่ายใบหน้า) โดยมีจุดประสงค์หลักเพิ่มความปลอดภัย ควบคุมคนเข้าออกอย่างแม่นยำ และทำให้ขั้นตอนเดินทางทันสมัยมากขึ้น
โดยจะเริ่มใช้จะเริ่มใช้งานในวันที่ 12 ตุลาคม 2025 และจะทยอยเปิดใช้ตามจุดผ่านแดนต่าง ๆ เช่น สนามบิน ท่าเรือ และด่านรถไฟ จนกว่าจะครอบคลุมครบทั้ง 29 ประเทศ ภายในเดือนเมษายน 2026
สำหรับนักท่องเที่ยว non-EU ซึ่งรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย จะต้องลงทะเบียนดังนี้
- สแกนพาสปอร์ต ที่ตู้ kiosk หรือ ผ่านเจ้าหน้าที่
- เก็บข้อมูลชีวมิติ ได้แก่ ถ่ายรูปใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือ
- ตอบคำถามสั้น ๆ เกี่ยวกับการเดินทาง
โดยข้อมูลนี้จะถูกเก็บไว้ในระบบ มีอายุ 3 ปี และเมื่อต้องเดินทางรอบต่อไปก็เพียงแค่ยืนยันข้อมูล ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ทุกครั้ง
ส่วนคำถามที่ว่า คนไทยต้องขอ วีซ่าเชงเกนเหมือนเดิมไหม ?

คนไทยต้องขอ วีซ่าเชงเกนเหมือนเดิม นั่นเป็นเพราะว่า EES เป็นเพียงระบบบันทึกข้อมูลการเดินทางเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจในการอนุญาตการเข้าเมืองแม้จะเก็บข้อมูล Biometrics ไปแล้วตอนขอวีซ่า แต่ก็ต้องลงทะเบียนใหม่ครั้งแรก ตอนผ่านแดน แต่ก็จะทำให้การผ่านตม.ครั้งต่อไปเร็วขึ้น

โดยระบบนี้เริ่มใช้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2569 เป็นต้นไป เมื่อระบบ EES เปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ใน 29 ประเทศที่เข้าร่วม การประทับตราพาสปอร์ตแบบเดิมสำหรับนักท่องเที่ยวจะถูกยกเลิกทั้งหมด และจะใช้การบันทึกข้อมูลการเดินทางแบบ Digital แทน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Website: https://travel-europe.europa.eu/ees